– ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ปัญหา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่วิกฤตที่สุดในประเทศไทย คือ การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง รองลงมาคือการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย และการสูญเสียพื้นที่ป่า (ตารางที่ 1) เมื่อเปรียบเทียบตามเขตพื้นที่ พบว่ากลุ่มประชากรที่อาศัยในเขตเมืองเห็นว่าปัญหาที่วิกฤต ได้แก่ การสูญเสียพื้นที่ป่า (ร้อยละ 21.5) และการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย (ร้อยละ 17.4) และการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง (ร้อยละ 12.4) โดยกลุ่มที่อาศัยในเขตนอกเมืองเห็นว่าการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเป็นปัญหาที่ วิกฤติที่สุดในพื้นที่ (ร้อยละ 26.1) สำหรับประชากรในเขตกรุงเทพฯ เห็นว่าปัญหาที่รุนแรงที่สุดคือการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟื่อย (ร้อยละ 24.0) (ตารางที่ 2) เมื่อ พิจารณารายภาค พบว่า ประชากรในภาคใต้มีความเห็นว่าการสูญเสียพื้นที่ป่าเป็นปัญหาสำคัญที่สุด (ร้อยละ 19.7) และประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเห็นว่าการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเป็นปัญหา ที่รุนแรงที่สุด (ร้อยละ 35.9) เช่นเดียวกับภาคเหนือ (ร้อยละ 23.3) เป็นปัญหาที่วิกฤติที่สุดในพื้นที่ สำหรับประชากรในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเห็นว่าปัญหาวิกฤตที่ต้องได้รับการ แก้ไขอย่างเร่งด่วนคือการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย (ร้อยละ 21.4) เช่นเดียวกับประชาชนในภาคกลาง (ร้อยละ 16.6) ระดับความ รุนแรงของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งนี้ บางปัญหาเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ระดับความรุนแรงไม่มาก เช่น เสียงดังในที่สาธารณะ ในขณะที่บางปัญหามีความรุนแรงมาก เช่น การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง การปนเปื้อนของสารพิษในสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นจากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนต่อระดับความรุนแรงของปัญหาต่างๆ สามารถนำมาคำนวณค่าดัชนีความรุนแรงของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่า การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ สภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น การสูญเสียพื้นที่ป่า และการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือยเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระดับความรุนแรง ระหว่างปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาสิ่งแวดล้อม พบว่าปัญหาทรัพยากรธรรมชาติมีระดับความรุนแรงมากกว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำ ป่าไม้ พลังงาน เป็นต้น ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีระดับความรุนแรงมากที่สุดคือปัญหาสภาวะที่โลกมี อุณหภูมิสูงขึ้น (ตารางที่ 3) จากค่า ดัชนีความรุนแรงของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายภาค พบว่า การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งมีระดับความรุนแรงสูงที่สุด โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (มีค่าดัชนีความรุนแรง 4.6) ภาคเหนือ และภาคกลาง ในขณะที่ประชาชนในภาคใต้เห็นว่าการสูญเสียพื้นที่ป่าและสภาวะโลกที่มี อุณหภูมิสูงขึ้นเป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด สำหรับประชาชนในเขตกรุงเทพและปริมณฑลให้ความสำคัญกับปัญหาการใช้พลังงาน อย่างฟุ่มเฟือย ปริมาณขยะที่มากเกินความสามารถในการกำจัด และน้ำในแม่น้ำลำคลองเน่าเสีย เป็นปัญหาที่รุนแรงที่สุด (ค่าดัชนีความรุนแรง 4.3) จากการเปรียบเทียบค่าดัชนีความรุนแรงของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมกับความคิดเห็นของประชาชนต่อปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายภาค พบว่า ปัญหาที่มีความรุนแรงอันดับหนึ่งเป็นปัญหาเดียวกัน แต่ในอันดับรองลงมามีความแตกต่างกัน ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง และกรุงเทพและปริมณฑล (ตารางที่ 4)
ปัญหา
|
ทั้งประเทศ
(ร้อยละ)
|
ภาค (ร้อยละ)
|
||||
เหนือ
|
ออกเฉียงเหนือ
|
ใต้
|
กลาง
|
กทม.และปริมณฑล
|
||
1. การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
|
22.2
|
23.3
|
35.9
|
14.6
|
13.2
|
11.1
|
2. การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย
|
15.3
|
10.5
|
16.3
|
10.5
|
16.6
|
21.4
|
3. การสูญเสียพื้นที่ป่า
|
14.8
|
16.9
|
12.1
|
19.7
|
11.7
|
16.7
|
4. ปัญหาอุทกภัย
|
10.1
|
12.3
|
12.0
|
7.6
|
11.7
|
4.2
|
5. สภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น
|
10.0
|
11.2
|
13.5
|
13.4
|
2.0
|
7.9
|
6. ปริมาณขยะมากเกินกว่าความสามารถ ในการกำจัด
|
5.2
|
7.7
|
1.9
|
5.4
|
2.9
|
10.6
|
7. น้ำในแม่น้ำ คลอง เน่าเสีย
|
5.1
|
3.7
|
0.1
|
5.1
|
13.4
|
7.1
|
8. ชุมชนแออัด เช่น น้ำเสีย ขยะ ฯลฯ
|
3.8
|
2.6
|
1.5
|
1.9
|
12.0
|
2.7
|
9. อากาศเสีย (ฝุ่นขนาดเล็ก)
|
3.4
|
2.6
|
0.7
|
4.1
|
5.4
|
6.6
|
10. ความเสื่อมโทรมของแหล่งธรรมชาติ
|
1.9
|
1.3
|
0.5
|
0.6
|
4.9
|
3.2
|
ปัญหา
|
ทั้งประเทศ
(ร้อยละ) |
เขตพื้นที่ (ร้อยละ)
|
||
กรุงเทพฯ | ในเขตเมือง | นอกเขตเมือง | ||
1. การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
|
22.2
|
16.0
|
12.4
|
26.1
|
2. การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย
|
15.3
|
24.0
|
17.4
|
13.5
|
3. การสูญเสียพื้นที่ป่า
|
14.8
|
15.6
|
21.5
|
12.7
|
4. ปัญหาอุทกภัย (น้ำท่วม น้ำหลาก)
|
10.1
|
4.6
|
8.3
|
11.4
|
5. สภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น
|
10.0
|
4.6
|
8.3
|
11.3
|
6. ปริมาณขยะมากเกินกว่าความสามารถในการกำจัด
|
5.2
|
7.6
|
7.2
|
4.2
|
7. น้ำในแม่น้ำ คลอง เน่าเสีย
|
5.1
|
7.6
|
3.1
|
5.1
|
8. ชุมชนแออัด เช่น น้ำเสีย ขยะ เป็นต้น
|
3.8
|
2.9
|
3.7
|
4.2
|
9. อากาศเสีย (ฝุ่นขนาดเล็ก)
|
3.4
|
8.4
|
4.8
|
2.2
|
10. ความเสื่อมโทรมของแหล่งธรรมชาติ
|
1.9
|
2.1
|
2.5
|
2.7
|
ปัญหา2
|
ระดับความรุนแรง (ร้อยละ)
|
ดัชนีความ
รุนแรง1 |
||||||
มาก ที่สุด |
มาก | ปาน กลาง |
ค่อนข้าง น้อย |
น้อย มาก |
ไม่มี ปัญหา | ไม่ทราบ/ ไม่ตอบ |
||
1. การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
|
42.4
|
32.2
|
15.6
|
4.7
|
1.9
|
1.9
|
1.3
|
4.0
|
2. สภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น
|
28.1
|
43.8
|
17.2
|
4.6
|
2.3
|
0.8
|
3.2
|
3.9
|
3. การสูญเสียพื้นที่ป่า
|
26.2
|
41.6
|
18.3
|
5.0
|
3.1
|
2.3
|
3.5
|
3.8
|
4. การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย
|
32.4
|
35.6
|
16.0
|
6.6
|
3.9
|
3.4
|
2.1
|
3.8
|
5. การลดลงของสัตว์ป่า
|
19.2
|
42.8
|
21.1
|
6.5
|
4.3
|
2.6
|
3.6
|
3.6
|
6. ปัญหาอุทกภัย (น้ำท่วม น้ำหลาก)
|
26.5
|
34.8
|
21.6
|
8.1
|
4.1
|
4.0
|
0.9
|
3.6
|
7. ชุมชนแออัด เช่น น้ำเสีย ขยะ ฯลฯ
|
18.6
|
42.0
|
22.9
|
7.1
|
3.4
|
4.7
|
1.3
|
3.5
|
8. ปริมาณขยะมากเกินกว่าความ
สามารถในการกำจัด |
24.0
|
35.1
|
17.0
|
10.1
|
6.0
|
5.2
|
2.7
|
3.5
|
9. น้ำในแม่น้ำ คลอง เน่าเสีย
|
22.5
|
34.6
|
19.6
|
11.8
|
5.1
|
5.1
|
1.2
|
3.4
|
10. อากาศเสีย (ฝุ่นขนาดเล็ก)
|
20.1
|
31.1
|
23.1
|
13.4
|
6.4
|
4.7
|
1.2
|
3.3
|
11. การปนเปื้อนของสารเคมีในอาหาร
|
17.2
|
28.3
|
21.5
|
17.4
|
7.8
|
3.4
|
4.4
|
3.2
|
12. ความเสื่อมโทรมของแหล่งธรรมชาติ
|
11.9
|
30.0
|
30.2
|
13.1
|
5.6
|
4.3
|
4.8
|
3.2
|
13. การปนเปื้อนของสารพิษในสิ่งแวดล้อม
|
11.7
|
26.1
|
25.4
|
16.9
|
7.6
|
4.8
|
7.4
|
3.0
|
14. เสียงดังในที่สาธารณะ
|
9.2
|
29.9
|
30.3
|
15.5
|
7.5
|
5.2
|
2.5
|
3.0
|
15. การลดลงของสัตว์ทะเล
|
9.6
|
28.1
|
18.9
|
12.5
|
6.4
|
9.1
|
15.5
|
2.9
|
16. การเสื่อมโทรมของแนวปะการัง
|
8.7
|
25.5
|
20.6
|
12.4
|
6.2
|
9.1
|
17.7
|
2.9
|
17. การสูญเสียพื้นที่ป่าชายเลน
|
8.8
|
25.1
|
21.8
|
13.9
|
6.0
|
9.9
|
14.6
|
2.8
|
ระดับความรุนแรง มากที่สุด = 4.01 – 5.00 มาก = 3.01 – 4.00 ปานกลาง = 2.01 – 3.00
ค่อนข้างน้อย = 1.01 – 2.00 น้อยมาก = 0.01 – 1.00
ตารางที่ 4 ดัชนีความรุนแรงของปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายภาค ปี พ.ศ. 2548
ปัญหา
|
ทั้งประเทศ
|
ภาค
|
||||
เหนือ
|
ตะวันออก
เฉียงเหนือ |
ใต้
|
กลาง
|
กรุงเทพและ
ปริมณฑล |
||
1. การขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
|
4.0
|
3.8
|
4.6
|
3.5
|
3.8
|
4.0
|
2. สภาวะที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น
|
3.9
|
3.5
|
4.2
|
3.7
|
3.7
|
4.2
|
3. การสูญเสียพื้นที่ป่า
|
3.8
|
3.5
|
3.8
|
3.7
|
3.8
|
4.1
|
4. การใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย
|
3.8
|
3.3
|
4.0
|
3.4
|
3.7
|
4.3
|
5. การลดลงของสัตว์ป่า
|
3.6
|
3.3
|
3.7
|
3.6
|
3.6
|
3.8
|
6. ปัญหาอุทกภัย (น้ำท่วม น้ำหลาก)
|
3.6
|
3.2
|
4.0
|
3.0
|
3.7
|
3.8
|
7. ชุมชนแออัด เช่น น้ำเสีย ขยะ ฯลฯ
|
3.5
|
3.0
|
3..6
|
3.1
|
3.7
|
4.0
|
8. ปริมาณขยะมากเกินกว่าความสามารถในการกำจัด
|
3.5
|
3.2
|
3.2
|
3.4
|
3.6
|
4.3
|
9. น้ำในแม่น้ำ คลอง เน่าเสีย
|
3.4
|
3.0
|
3.1
|
3.4
|
3.8
|
4.3
|
10. อากาศเสีย (ฝุ่นขนาดเล็ก)
|
3.3
|
2.9
|
3.0
|
3.3
|
3.5
|
4.1
|
ค่อนข้างน้อย = 1.01 – 2.00 น้อยมาก = 0.01 – 1.00
การ แก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสามารถทำได้หลายแนวทาง โดยการใช้มาตรการควบคุมและกำกับ มาตรการด้านราคา รวมทั้งการให้ความรู้และรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชน ในการสำรวจได้ทำการสอบถามประชาชนถึงความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อลดปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้แก่ พฤติกรรมการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน การเก็บค่าธรรมเนียม และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม
ส่วนใหญ่มีความยินดีที่จะปฏิบัติตามมาตรการเพื่อช่วยลดปัญหาทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การแยกขยะ การปิดไฟตอนพักกลางวัน การแยกของเสียอันตรายออกจากขยะทั่วไป การใช้สินค้าประหยัดพลังงาน การใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประหยัดน้ำ เป็นต้น รวมทั้งความยินดีที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดการขยะและน้ำเสีย
มาตรการ
|
ยินดีจะทำ
(ร้อยละ) |
ไม่ยินดีจะทำ
(ร้อยละ) |
1. พฤติกรรมการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน |
94.3
|
5.7
|
|
97.6
|
2.4
|
|
89.7
|
10.3
|
|
96.7
|
3.3
|
|
96.6
|
3.4
|
|
96.9
|
3.1
|
|
92.6
|
7.4
|
|
90.3
|
9.7
|
|
93.8
|
6.2
|
2. การเก็บค่าธรรมเนียม
|
79.6
|
20.4
|
|
74.5
|
25.5
|
|
84.7
|
15.3
|
3. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาสิ่งแวดล้อม
|
96.8
|
3.2
|
|
97.9
|
2.1
|
|
95.8
|
4.2
|
|
96.8
|
3.2
|